วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555


อบรมพี่เลี้ยง (Sponsors) ของผู้สมัครเตรียมเป็นคริสตชน
  
ในกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน (RCIA)   กล่าวถึงครูคำสอนและฆราวาสอื่นๆ ควรทำงานกับพระสงฆ์และสังฆานุกรในการเตรียมผู้ใหญ่รับศีลล้างบาป อธิบายพระวรสารให้ผู้สมัครเข้าใจอย่างเหมาะสม ให้เอาใจใส่ช่วยเหลือ เพื่อให้กลุ่มผู้สมัครเรียนมีความอบอุ่นในการติดต่อกับชุมชนคริสตชนยิ่งขึ้น(RCIA  11) หมายถึงการการสร้างชุมชนคริสตชนย่อย (Basic Ecclesial Community – BEC) ในเขตวัดด้วย

บทบาทของพี่เลี้ยง (Sponsors)
         กลุ่มผู้เรียนคำสอนผู้ใหญ่ประกอบด้วย          1. ผู้สมัครเรียนคำสอน*
         2. พี่เลี้ยง (
Sponsors         3. บรรดาคริสตชนในเขตวัด

ผู้สมัครเรียนคำสอน* ประกอบด้วย 1. ผู้ใหญ่ที่ยังมิได้รับศีลล้างบาป  2. ผู้ใหญ่ที่รับศีลล้างบาปแล้ว แต่ยังมิได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกและศีลกำลัง 3. ผู้ใหญ่ที่รับศีลล้างบาปของชาวคริสต์นิกายอื่นๆ
ดังนั้นในกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน พี่เลี้ยงจึงมีบทบาทที่สำคัญด้วย 
 ก. ความหมายของคำว่า พี่เลี้ยง    
1. พี่เลี้ยง เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง
-         เป็นผู้รับใช้ ที่เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง และบางครั้งก็เป็นผู้แนะนำ
-   การเป็นเพื่อนร่วมเดินทางต้องสามารถช่วยเหลือหรือเรียกใช้ได้ง่าย และทำให้ผู้สมัครเรียน  เห็นถึงความเต็มใจของพี่เลี้ยงที่ยินดีที่จะช่วยเขา เมื่อเขามีความต้องการ และยินดีช่วยเขาขณะที่เขาลังเลใจ เข้าใจเขาเมื่อเขาเกิดความสงสัย หรือช่วยเหลือและปลอบโยนเขาเมื่อเกิดวิกฤตในชีวิต
-      เพื่อนร่วมเดินทางหมายถึงเป็นเพื่อนผู้สมัครเรียน  ไว้ใจ และสามารถพูดคุยในเรื่องต่างๆได้
-      พี่เลี้ยงไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับการให้คำตอบ ถึงแม้ว่าท่านเป็นคาทอลิกซึ่งปฏิบัติศาสนกิจ      มาก่อน ท่านไม่ใช่ผู้รับผิดชอบในการสอนคำสอนของพระศาสนจักร นั่นเป็นหน้าที่ของ       ครูผู้สอนคำสอน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับคำถามที่ถูกถาม ถ้าท่านไม่ทราบคำตอบ ก็สามารถถามทีมผู้สอนได้  
อย่างไรก็ดี  พระจิตเจ้าจะเป็นผู้นำทางและทำให้เกิดผลในกระบวนการเรียน ดังคำกล่าวใน     
2 คร 4:5 ว่า  “เพราะเรามิได้ประกาศเรื่องตนเอง       แต่ประกาศว่าพระคริสตเยซูทรงเป็น
พระผู้เป็นเจ้า ส่วนเราเป็นเพียงผู้รับใช้ท่านทั้งหลาย  เพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า
2 . “พี่เลี้ยง   เป็นที่ปรึกษาฝ่ายจิต
        ผู้สมัคเรียน เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นคริสตชน ส่วนใหญ่จากบุคคลมากมาย แต่ส่วนใหญ่จากพี่เลี้ยงของเขา แน่นอนพี่เลี้ยงจะเป็นผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเขาเติบโต และแนะนำการปฏิบัติศาสนกิจแห่งความเชื่อด้วย
-      การเป็นที่ปรึกษาฝ่ายจิต มีความหมาย คือเป็น ครู เป็นผู้แนะนำ เป็นแบบอย่าง เป็นผู้ให้คำปรึกษา
-      พี่เลี้ยงจึงเป็นผู้ที่ทำให้เขาพยายามเติบโตในความเชื่อในรูปแบบที่ดีงาม
ผู้อำนวยการ และทีมผู้นำตามกระบวนการ RCIA จะแนะนำท่านในการทำหน้าที่ศาสน  บริกรนี้อย่างมีคุณภาพ และสร้างความมั่นใจในหนทางแห่งความเชื่อที่สามารถเป็นพี่เลี้ยงที่ดีกับผู้อื่น   ที่สำคัญท่านต้องตอบรับเสียงของพระจิตเจ้า
         ข. การเลือกพี่เลี้ยง
            พี่เลี้ยงควรเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมต่างๆ ภายในเขตวัดและขอแนะนำให้ท่านเลือกพี่เลี้ยงที่มีสภาพชีวิตเช่นเดียวกันกับตน เช่น ถ้าท่านเป็นผู้ที่สมรสแล้วควรเลือกพี่เลี้ยงที่แต่งงานแล้ว บุคคลเหล่านี้จะเข้าใจชีวิตของคู่สมรสดีกว่าผู้ที่ไม่ได้แต่งงาน
          ค. หน้าที่ของพี่เลี้ยง
w      พี่เลี้ยงมีหน้าที่ในการเข้าร่วมเรียนคำสอนกับผู้สมัคร    และร่วมในการตั้งกลุ่มผู้เรียนคำสอน
w      พี่เลี้ยงต้องแบ่งปันความเชื่อและช่วยพวกเขาให้เข้าใจในความเชื่อ
w      พี่เลี้ยงต้องเป็นผู้นำในการเรียนคำสอนในฐานะเป็นผู้นำกลุ่ม  
w      พี่เลี้ยงต้องนำผู้สมัครเข้าร่วมกับกลุ่มคริสตชน
w  พี่เลี้ยงกับผู้สมัครควรมีกิจกรรมร่วมกันบ้าง เช่น เยี่ยมผู้ป่วย การจัดบ้านแบบคริสตชน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการดำเนินชีวิต การแสวงบุญ ฯลฯ
w  ถ้าพี่เลี้ยงหรือสมาชิกของชุมชนคริสตชนที่ได้รับมอบอำนาจจากพระสังฆราช  อวยพรผู้สมัครระหว่างเรียนคำสอน  และภาวนาบทภาวนาละทิ้งความชั่วเพื่อผู้สมัคร  
(ข้อมูลจากหนังสือก้าวไปด้วยกัน ฉบับปรับปรุงใหม่ ค.ศ. 2005  หน้า 36 )

นอกจากนี้พี่เลี้ยงยังมีบทบาทเพิ่มเติมดังนี้
w      พี่เลี้ยงต้องเป็นผู้แนะนำ  เป็นที่ปรึกษา
w      พี่เลี้ยงเป็นผู้ช่วยพระสงฆ์หรือครูคำสอน
w      พี่เลี้ยงสามารถเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ (God parent)ในอนาคต
w      พี่เลี้ยงเป็นผู้ร่วมพิธีในทุกขั้นตอนของ RCIA

 การเป็นพี่เลี้ยงของผู้สมัครเรียนคำสอนเป็นการอุทิศตัวที่สำคัญ แต่ก็ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ด้วย นอกจากเป็นการช่วยเหลือคนหนึ่งให้เข้าในพระศาสนจักร ท่านจะมีเพื่อนใหม่ สนุกสนานและเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับความเชื่อคาทอลิกของท่านเอง

            ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มีหลายวัดพยายามดำเนินตามกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็น       คริสตชน ตั้งแต่ ค.ศ. 1999 โดยจัดพิธีต้อนรับผู้สมัคร พิธีเลือกสรร การเตรียมตัวในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ และชุมนุมคริสตชนใหม่ และในกฤษฎีกาสมัชชาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ค.ศ. 2005 เรื่องการฟื้นฟูชีวิตและพันธกิจของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทที่ 5 การฟื้นฟูชุมชนคริสตชน ข้อ 40 ยืนยันการใช้กระบวนการ RCIA เป็นแนวทางในการเตรียมผู้สมัครเข้าเป็นคริสตชน

รวบรวมโดย อ.ทัศนีย์    มธุรสสุวรรณ (ปี ค.ศ.2011)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น