อบรมพี่เลี้ยง (Sponsors)
ของผู้สมัครเตรียมเป็นคริสตชน
ในกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน
(RCIA)
กล่าวถึงครูคำสอนและฆราวาสอื่นๆ
ควรทำงานกับพระสงฆ์และสังฆานุกรในการเตรียมผู้ใหญ่รับศีลล้างบาป “อธิบายพระวรสารให้ผู้สมัครเข้าใจอย่างเหมาะสม ให้เอาใจใส่ช่วยเหลือ…
เพื่อให้กลุ่มผู้สมัครเรียนมีความอบอุ่นในการติดต่อกับชุมชนคริสตชนยิ่งขึ้น”
(RCIA
11) หมายถึงการการสร้างชุมชนคริสตชนย่อย (Basic Ecclesial Community
– BEC) ในเขตวัดด้วย
บทบาทของพี่เลี้ยง (Sponsors)
กลุ่มผู้เรียนคำสอนผู้ใหญ่ประกอบด้วย 1. ผู้สมัครเรียนคำสอน*
2. พี่เลี้ยง
(Sponsors) 3.
บรรดาคริสตชนในเขตวัด
2. พี่เลี้ยง (Sponsors) 3. บรรดาคริสตชนในเขตวัด
ผู้สมัครเรียนคำสอน* ประกอบด้วย 1.
ผู้ใหญ่ที่ยังมิได้รับศีลล้างบาป 2.
ผู้ใหญ่ที่รับศีลล้างบาปแล้ว แต่ยังมิได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกและศีลกำลัง 3.
ผู้ใหญ่ที่รับศีลล้างบาปของชาวคริสต์นิกายอื่นๆ
ดังนั้นในกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน
พี่เลี้ยงจึงมีบทบาทที่สำคัญด้วย
ก.
ความหมายของคำว่า “พี่เลี้ยง”
1. “พี่เลี้ยง” เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง
-
เป็นผู้รับใช้ ที่เป็นเพื่อนร่วมเดินทาง
และบางครั้งก็เป็นผู้แนะนำ
- การเป็นเพื่อนร่วมเดินทางต้องสามารถช่วยเหลือหรือเรียกใช้ได้ง่าย
และทำให้ผู้สมัครเรียน
เห็นถึงความเต็มใจของพี่เลี้ยงที่ยินดีที่จะช่วยเขา เมื่อเขามีความต้องการ
และยินดีช่วยเขาขณะที่เขาลังเลใจ เข้าใจเขาเมื่อเขาเกิดความสงสัย
หรือช่วยเหลือและปลอบโยนเขาเมื่อเกิดวิกฤตในชีวิต
- เพื่อนร่วมเดินทางหมายถึงเป็นเพื่อนผู้สมัครเรียน ไว้ใจ และสามารถพูดคุยในเรื่องต่างๆได้
- พี่เลี้ยงไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับการให้คำตอบ
ถึงแม้ว่าท่านเป็นคาทอลิกซึ่งปฏิบัติศาสนกิจ
มาก่อน ท่านไม่ใช่ผู้รับผิดชอบในการสอนคำสอนของพระศาสนจักร
นั่นเป็นหน้าที่ของ ครูผู้สอนคำสอน
ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับคำถามที่ถูกถาม ถ้าท่านไม่ทราบคำตอบ
ก็สามารถถามทีมผู้สอนได้
อย่างไรก็ดี
พระจิตเจ้าจะเป็นผู้นำทางและทำให้เกิดผลในกระบวนการเรียน ดังคำกล่าวใน
2 คร 4:5 ว่า “เพราะเรามิได้ประกาศเรื่องตนเอง แต่ประกาศว่าพระคริสตเยซูทรงเป็น
พระผู้เป็นเจ้า ส่วนเราเป็นเพียงผู้รับใช้ท่านทั้งหลาย เพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า”
2 . “พี่เลี้ยง ” เป็นที่ปรึกษาฝ่ายจิต
ผู้สมัคเรียน เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นคริสตชน
ส่วนใหญ่จากบุคคลมากมาย แต่ส่วนใหญ่จากพี่เลี้ยงของเขา แน่นอนพี่เลี้ยงจะเป็นผู้ที่ทำให้ความเชื่อของเขาเติบโต
และแนะนำการปฏิบัติศาสนกิจแห่งความเชื่อด้วย
- การเป็นที่ปรึกษาฝ่ายจิต มีความหมาย คือเป็น ครู
เป็นผู้แนะนำ เป็นแบบอย่าง เป็นผู้ให้คำปรึกษา
- พี่เลี้ยงจึงเป็นผู้ที่ทำให้เขาพยายามเติบโตในความเชื่อในรูปแบบที่ดีงาม
ผู้อำนวยการ
และทีมผู้นำตามกระบวนการ RCIA จะแนะนำท่านในการทำหน้าที่ศาสน
บริกรนี้อย่างมีคุณภาพ
และสร้างความมั่นใจในหนทางแห่งความเชื่อที่สามารถเป็นพี่เลี้ยงที่ดีกับผู้อื่น ที่สำคัญท่านต้องตอบรับเสียงของพระจิตเจ้า
ข. การเลือกพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงควรเป็นบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกิจกรรมต่างๆ
ภายในเขตวัดและขอแนะนำให้ท่านเลือกพี่เลี้ยงที่มีสภาพชีวิตเช่นเดียวกันกับตน เช่น ถ้าท่านเป็นผู้ที่สมรสแล้วควรเลือกพี่เลี้ยงที่แต่งงานแล้ว
บุคคลเหล่านี้จะเข้าใจชีวิตของคู่สมรสดีกว่าผู้ที่ไม่ได้แต่งงาน
ค.
หน้าที่ของพี่เลี้ยง
w
พี่เลี้ยงมีหน้าที่ในการเข้าร่วมเรียนคำสอนกับผู้สมัคร และร่วมในการตั้งกลุ่มผู้เรียนคำสอน
w
พี่เลี้ยงต้องแบ่งปันความเชื่อและช่วยพวกเขาให้เข้าใจในความเชื่อ
w
พี่เลี้ยงต้องเป็นผู้นำในการเรียนคำสอนในฐานะเป็นผู้นำกลุ่ม
w
พี่เลี้ยงต้องนำผู้สมัครเข้าร่วมกับกลุ่มคริสตชน
w พี่เลี้ยงกับผู้สมัครควรมี “กิจกรรม”
ร่วมกันบ้าง เช่น เยี่ยมผู้ป่วย การจัดบ้านแบบคริสตชน ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการดำเนินชีวิต
การแสวงบุญ ฯลฯ
w ถ้าพี่เลี้ยงหรือสมาชิกของชุมชนคริสตชนที่ได้รับมอบอำนาจจากพระสังฆราช
อวยพรผู้สมัครระหว่างเรียนคำสอน และภาวนา “บทภาวนาละทิ้งความชั่ว” เพื่อผู้สมัคร
(ข้อมูลจากหนังสือก้าวไปด้วยกัน
ฉบับปรับปรุงใหม่ ค.ศ. 2005 หน้า 36 )
นอกจากนี้พี่เลี้ยงยังมีบทบาทเพิ่มเติมดังนี้
w พี่เลี้ยงต้องเป็นผู้แนะนำ เป็นที่ปรึกษา
w พี่เลี้ยงเป็นผู้ช่วยพระสงฆ์หรือครูคำสอน
w พี่เลี้ยงสามารถเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์
(God parent)ในอนาคต
w พี่เลี้ยงเป็นผู้ร่วมพิธีในทุกขั้นตอนของ
RCIA
“การเป็นพี่เลี้ยงของผู้สมัครเรียนคำสอนเป็นการอุทิศตัวที่สำคัญ
แต่ก็ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ด้วย
นอกจากเป็นการช่วยเหลือคนหนึ่งให้เข้าในพระศาสนจักร ท่านจะมีเพื่อนใหม่ สนุกสนานและเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับความเชื่อคาทอลิกของท่านเอง”
ในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
มีหลายวัดพยายามดำเนินตามกระบวนการรับผู้ใหญ่เข้าเป็น คริสตชน ตั้งแต่ ค.ศ. 1999
โดยจัดพิธีต้อนรับผู้สมัคร พิธีเลือกสรร การเตรียมตัวในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
และชุมนุมคริสตชนใหม่ และในกฤษฎีกาสมัชชาอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ค.ศ. 2005
เรื่องการฟื้นฟูชีวิตและพันธกิจของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ บทที่ 5
การฟื้นฟูชุมชนคริสตชน ข้อ 40 ยืนยันการใช้กระบวนการ RCIA
เป็นแนวทางในการเตรียมผู้สมัครเข้าเป็นคริสตชน
รวบรวมโดย อ.ทัศนีย์
มธุรสสุวรรณ (ปี ค.ศ.2011)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น