วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ลักษณะที่เด่นชัดแห่งความเชื่อของคริสตชนที่เป็นผู้ใหญ่
                ตามทัศนะของคุณพ่อแบร์นาร์ด  แฮริ่ง  (Bernard  Haring  ค.ศ. 1912-1997)  อาจารย์เทววิทยาด้านศีลธรรมคณะพระมหาไถ่  ท่านเขียนหนังสือ  Christian  Maturity : Holiness  in  Today’s  World  (St. Paul Publications, England, 1983.)  สรุปใจความสำคัญ  21 ประการ  ดังต่อไปนี้
1.รักความจริง     คริสตชนที่มีความเชื่อแบบผู้ใหญ่  รู้ว่าพระคริสตเจ้าเป็นความจริง  นำเราไปหา   พระบิดา  (ยน  18: 36-38)  รู้ต้นกำเนิด  จุดหมายปลายทาง  และกระแสเรียกของมนุษย์
ความเชื่อเช่นนี้  ช่วยคริสตชนให้เป็นคนซื่อสัตย์  กล่าวคือ  คิดซื่อ  พูดซื่อ  และปฏิบัติซื่อ            ด้วยความสุขุมรอบคอบ  (มธ  7: 6)
2. มีศิลปะในการสนทนา  (บสร  4: 23-26, 5: 11-14, 20: 5-8)  เมื่อรักความจริง  ต้องมีศิลป์ในการสนทนารู้จักเลือกคู่คุย  พร้อมที่จะเป็นผู้ฟัง  ช่วยเหลือ  และตั้งใจที่จะช่วยแสวงหาปัญญา
ต้องรู้จักสนทนากับพระเจ้าก่อนบุคคลใด  และสนทนากับพี่น้องเพื่อนร่วมทาง  นั่นคือ  การเลียนแบบพระเยซูเจ้า  ที่ฟังพระวาจา  ฟังคนฉลาด  ฟังความต้องการของประชาชน  และเสียงร้องของคนบาป  พระองค์สนทนากับศิษย์  กับประชาชน  กับหญิงชาวสะมาเรีย  (เทียบ  ยน 4)
ศิลปะในการสนทนาเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ  พ่อ  แม่  ลูก  ครู  ศิษย์  ฯลฯ  ต้องมีศิลปในการสนทนาด้วยความเพียรทนและเคารพ  เพื่อแสวงหาความจริง  และช่วยแก้ไขปัญหาทั่วไป  เราต้องสนทนาด้วยความเชื่อเพื่อสร้างสันติ  และความยุติธรรมในสังคม
3. ชื่นชมในสิ่งงดงาม  นักบุญโทมัส  อาไควนัส  กล่าวว่า  ความงามเป็นชื่อหนึ่งที่แสดงลักษณะของพระเป็นเจ้า  สิ่งสร้างเผยแสดงถึงพระสิริรุ่งโรจน์  และความงดงามของพระองค์  ความงามมีค่าเหนือผลประโยชน์และกำไร
ผู้ที่เข้าใจความหมายของความงามแท้  จะไม่ลดตนไปกับแรงกระตุ้นเรื่องเพศ  แต่มีสายตากว้างไกล  เห็นความจริง  ใจเมตตา  สงบ  สันติ  เห็นสิ่งงดงามบริสุทธิ์  เห็นความน่ารักของผู้ให้กำเนิด
ผู้ที่ชื่นชมในความงามของธรรมชาติ  จะระลึกถึงพระผู้สร้าง  ผู้เป็นปฐมเหตุ  จะเข้าใจว่าความงามเป็นพระหรรษทาน  ดังเช่น  นักบุญฟรังซิส  อัสซีซี  โลกต้องการคนเช่นนี้  เพื่อสอนเด็ก  เยาวชน  และผู้ใหญ่  ให้รักความงาม  ซึ่งฉายแสดงถึงความดีและความจริง  ซึ่งจะช่วยปลดเปลื้องโลกจากความน่าเกลียด  แห่งความกดขี่  และความรุนแรง
4. คริสตชนต้องรู้จักพักผ่อน  ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และมีวันฉลอง  กล่าวคือ  เป็นชาวคริสต์ต้องร่าเริง  ร่วมทุกข์ร่วมสุข  การพักผ่อน  การเล่น  งานฉลอง  นอกจากเป็นการพักผ่อนจากงาน  และฟื้นฟูกำลังเพื่อทำงานต่อไป   ยังมีความหมายในตัวเองแก่ทุกคนผู้แสวงหาความหมายแท้ของชีวิตด้วย 
(มก  2
: 27)
ชาวคริสต์ไม่ลืมว่า  พิธีบูชาขอบพระคุณในวันอาทิตย์เป็นสิ่งสำคัญ  ที่ให้ความหวังแก่ชีวิตของเรา  และการเป็นคนมีอารมณ์ขันไม่ขัดอะไรกับชีวิตคริสตชน
5. สื่อมวลชน  เราไม่ลืมหรือมองข้ามความสำคัญของสื่อสารมวลชนในยุคปัจจุบัน  ว่าเป็นเครื่องมือประกาศพระวาจาได้  หากเรารู้จักเลือกใช้  เพื่อปลุกสำนึกต่อสภาพสังคม  เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาและสร้างสันติ  เป็นเสียงของผู้ที่ไร้เสียง  ช่วยเหลือคนตกทุกข์  หิวโหย  ประสบภัยต่างๆ เป็นเครื่องมือที่ดี  เพื่อให้เกิดการจัดการ  ช่วยเหลือ  แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราไม่ลืมด้วยว่า  สื่อสารมวลชนมีอันตรายเช่นกัน  หากมนุษย์ใช้ในทางที่ผิด  สื่อสารมวลชน  ได้แก่  สิ่งพิมพ์  ภาพยนตร์  วิทยุ  โทรทัศน์
6.ต้องร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาสังคม  ร่วมมือในการสำรวจความเห็นประชามติ  เมื่อมีการสำรวจ  เช่น   เรื่องประชาธิปไตย   ส่งเสริมเสรีภาพ   และศักดิ์ศรีของมนุษย์   สภาสังคายนาวาติกันที่  2   เรื่องพระศาสนจักร ยืนยันข้อนี้  (ข้อ 37)
7. เด่นในความเชื่อ  (ดู  อฟ  6: 13-17 ;  ฟป  3: 8-17)  เอกลักษณ์ของเราคือ  ดำเนินชีวิตเป็นพยานและช่วยเหลือผู้อื่น  สำนึกว่าทุกสิ่งมาจากพระเป็นเจ้า  สำนึกในพระหรรษทานแห่งความเชื่อ  และยินดีอุทิศตนเป็นผู้รับใช้พระวรสาร  สนใจความต้องการของสังคมปัจจุบันด้วยการมีเมตตาธรรมเป็นพื้นฐาน         (พระศาสนจักร  ข้อ 41)
8. คริสตชนสนใจเพื่อนต่างศาสนา   หรือสนใจผู้ที่ไม่สนใจศาสนา  (Atheism)  (ดู  GS 19-22)  ในสภาพสังคมปัจจุบัน  เราต้องเป็นพยานยืนยันความเชื่อในชีวิตปัจจุบัน  พ่อแม่ต้องปฏิบัติศาสนาเป็นตัวอย่างแก่ลูก
9. คริสตชนที่มีครอบครัวแล้วต้องซื่อสัตย์ต่อคู่ชีวิต   ไม่มีชู้  ไม่หย่าร้าง  ต้องรักษาสัญญาของ         ศีลสมรสจนตลอดชีวิต  โดยรู้จักภาวนาเสมอ  (อ่าน  1 คร 1: 4-9 ; 2 คร 1: 18-22)
10. คริสตชนต้องสนใจคนชรา  “สิ่งที่น่าชมยิ่งคือปรีชาญาณของผู้ชรา  การรู้จักไตร่ตรองและการตัดสินของบุคคลสำคัญ”  (บสร 25: 5)  ให้ความเคารพและกตัญญูต่อผู้สูงอายุ  อย่าทอดทิ้ง  ไม่ถือว่าคนแก่ไร้ค่า  พวกเขามักจะรู้สึกโดดเดี่ยว  เราจึงต้องสนใจเยี่ยมเยียนผู้ป่วยและคนชรา
11. สนใจเยาวชน  (1 ทธ  5: 1-12 ;  1 ยน  2: 13-14)  ให้เขารู้จักคุณค่าของชีวิตวัยรุ่น  อบรมเขาให้เป็นคนรับผิดชอบ  พร้อมที่จะช่วยเหลือคนอื่น  ให้เขารู้จักใช้เสรีภาพ  เป็นผู้ใหญ่  (Maturation)  และศรัทธา
12. รู้จักเคารพร่างกาย  สำนึกว่าร่างกายเป็นวิหารของพระจิตเจ้า  (2 คร  4: 10-14)  เมื่อได้รับศีล        ล้างบาป  และศีลกำลัง  จึงต้องเคารพร่างกาย  รักษาความบริสุทธิ์  (Chastity)  ต้องรักษาร่างกายให้มี   สุขภาพดีแต่อย่าปรนเปรอ  หรือสนใจแต่งตัวเกินควร
13. รู้จักใช้ภาษาบริสุทธิ์แห่งความจริงและความรัก   พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามภาพลักษณ์ของพระองค์  ให้เป็นชายและหญิง  (ปฐก 1-3)  ให้พึ่งพาอาศัยกันและกัน  เพราะฉะนั้นเราจึงแต่งงาน                 มีครอบครัว  แต่บางคนถือชีวิตโสดด้วยใจอิสระ  เพราะเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์
ดังนั้น  ไม่ว่าชีวิตแต่งงานหรือถือโสด  ก็มีความสุขได้  เพียงดำเนินชีวิตติดตามพระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงบนไม้กางเขน  และไม่เห็นแก่ตัว
14. รับผิดชอบชีวิตด้วยความรัก  สำหรับคริสตชน  ชีวิตฝ่ายร่างกายไม่ได้มีความดีสูงสุดมากกว่าคุณค่าอื่นๆ  แต่การมอบชีวิตของใครคนหนึ่งช่วยเหลือผู้อื่น  ถือเป็นความรักขั้นสูง  (เทียบ  ยน 15:13)  ดังนั้น  กางเขนของพระคริสตเจ้าจึงกลายเป็นกางเขนที่ให้ชีวิตสมบูรณ์แก่บรรดาศิษย์ของพระองค์
การทำแท้งจึงเป็นบาปหนัก  การตัดสินประหารชีวิต  พระศาสนจักรไม่ยอมรับ  เพราะเราต้องปกป้องชีวิต  และไม่เห็นด้วยกับความรุนแรง
15. สุขภาพและความศักดิ์สิทธิ์  พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด  คนพิการ  คนโรคเรื้อน  คนหูหนวก  (ลก 7: 18-23)  เป็นพันธกิจเร่งด่วนแม้ในวันสับบาโต  การมีสุขภาพดีไม่ใช่แค่ทำงานได้เท่านั้น  สุขภาพดีต้องฝ่ายร่างกายและจิตใจด้วย  เราไม่สงสัยเลยว่า  ความป่วยไข้และความทุกข์เป็นโอกาสให้เราพบความศักดิ์สิทธิ์สมกับเป็นศิษย์ของพระคริสตเจ้า
16. ตายกับพระคริสตเจ้า  คริสตชนดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ  แตกต่างจากเพื่อนพี่น้องต่างความเชื่อ   ซึ่งกลัวความตาย  เพราะเรามั่นใจในคำสัญญาและพระหรรษทานของพระเจ้า  ดังคำสอนของนักบุญเปาโลที่ว่า  “การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า  และการตายก็เป็นกำไร”  (ฟป 1: 21-24)  “ชีวิตในพระคริสตเยซูนั้นช่วยท่านให้พ้นจากกฎของบาปและกฎของความตาย”  (รม 8: 2)
17. รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม  (นิเวศน์วิทยา)  ให้เราคิดถึงนักบุญฟรังซิส  อัสซีซี  ที่รักสัตว์และต้นไม้  ดวงอาทิตย์  ดวงจันทร์  เห็นธรรมชาติต่างสรรเสริญพระเจ้า
ศิษย์พระคริสตเจ้าต้องช่วยแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อม  ความสัมพันธ์กับพระเจ้าผู้สร้าง  ต้องช่วยเรารักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เมื่อมนุษย์ทำบาป  เกิดน้ำท่วมโลก  พระเจ้าทรงพิทักษ์โนอาห์ผู้ชอบธรรมและครอบครัว  โนอาห์ได้ช่วยชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด  (ปฐก 7-9)
18. อุทิศตนเพื่อวัฒนธรรม  พระเยซูเจ้าทรงเล่าอุปมาเรื่องเงินตะลันต์  (มธ 25: 14-21)  สอนเราเรื่องการดำเนินชีวิตเต็มความสามารถ  การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม  เป็นกระบวนการส่งเสริมความยุติธรรมและสันติสุข  เพื่อความดีส่วนรวม  ดังที่พระเจ้าให้ความสามารถแก่เรา  สภาสังคายนาวาติกันที่ 2  ยืนยันว่าพระศาสนจักรต้องยอมรับวัฒนธรรมต่างๆ เพื่อ  “ชุมชนแห่งความเชื่อ  ต้องหยั่งรากในชีวิตของสังคม  และประยุกต์กับวัฒนธรรมท้องถิ่น”  (งานธรรมทูต 19)
19. เศรษฐกิจปัจจุบัน  และการดำเนินชีวิตความสุขแท้  8 ประการ  ไม่มีใครรับใช้นายสองคนพร้อมกันได้  เขาจะรักนายคนหนึ่ง  และดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง  ท่านรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้         (ลก 16: 13)
ประสบการณ์ของเราคริสตชนตระหนักดีว่า  บาปมีจริงในสังคมที่เน้นเศรษฐกิจเป็นสำคัญ  โดยอาศัยสื่อมวลชน  สอนให้ซื้อมาก  บริโภคมาก  แสดงออกมากๆ  ซึ่งขัดกับจิตตารมณ์พระวรสาร  เรื่องความสุขแท้  (เทียบ  มธ 6: 25-33)
20. คริสตชนและการเมือง  นักบุญเปาโลสอนว่า  “ทุกคนจงนอบน้อมต่อผู้มีอำนาจปกครอง  เพราะไม่มีอำนาจใดที่ไม่มาจากพระเจ้า”  (รม 13: 1)  สภาสังคายนาวาติกันที่ 2  เน้นอำนาจอื่นนอกจากผู้ที่สืบตำแหน่งของอัครสาวกว่า  “พวกเขาก็ประกาศพระวรสาร  ในอำนาจของพระเจ้า... ในหลายด้านพวกเขาแตกต่างจากการสนับสนุนของบ้านเมือง”  (พระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ 76)  คำสอนด้านสังคมของ    พระศาสนจักรสนับสนุนการพัฒนาด้านประชาธิปไตย  ยึดหลักการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  และประชาชนมีส่วนในการเลือกตั้ง  เพื่อความดีของส่วนรวม
21. ส่งเสริมสันติภาพ  “เกลือเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเกลือจืดท่านจะนำสิ่งใดมาทำให้เกลือเค็มอีกเล่า  จงมีเกลือไว้ในท่านเถิด  และจงอยู่อย่างสันติกับผู้อื่น”  (มก 9: 50)  “ผู้สร้างสันติย่อมเป็นสุข  เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า”  (มธ 5: 9)  คริสตชนมีหน้าที่เป็นพยานถึงความยุติธรรมและสันติภาพ  เราต้องพร้อมที่จะแก้ไขความขัดแย้งด้วยวิธีการไม่รุนแรง  ดังเช่น  มหาตมะ  คานธี  และ  มาร์ติน  ลูเธอร์คิง  ได้ยึดหลักนี้  คือ  การไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อยืนยันความจริง  ความรัก  ความยุติธรรม  และการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (Solidarity) กับผู้ยากไร้  เพราะเป็นคำสอนเรื่องความสุขแท้  โอวาทบนภูเขา  ตามชีวิตและคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้า


สรุปโดย  พระสังฆราช  วีระ  อาภรณ์รัตน์
                                                                                                      30 พฤษภาคม 2556

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แนะนำหนังสือคำสอนผู้ใหญ่



  หนังสือก้าวไปด้วยกัน     
โดย...ทัศนีย์ มธุรสสุวรรณ


หนังสือ “ก้าวไปด้วยกัน” เป็นหนังสือแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษชื่อ “Our Journey Together” ของคุณพ่อออสวัลด์ ฮีร์เมอร์ (Oswald Hirmer) เกิดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1930  พระสงฆ์ชาวเยอรมัน             ผู้เป็นธรรมทูตในแอฟริกาใต้มากกว่า 20 ปี ท่านได้อภิเษกเป็นพระสังฆราชที่ Mthatha อาฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1997    ท่านสิ้นชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ.2011 อายุ 81 ปี  ท่านเป็นผู้คิดหาวิธีการนำพระวาจาเข้าสู่ชีวิตคริสตชน เพื่อจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า ทำให้พระวาจาของพระองค์ทรงชีวิตและเจริญงอกงามอยู่ตลอดไป
“ก้าวไปด้วยกัน” เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในสถาบัน LUMKO ซึ่งสามารถใช้กับการสอนคำสอนผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี เนื้อหาประกอบด้วย 3 ภาค คือ
ภาคแรก เป็นวิธีการสอนและการสอนคำสอนผู้ใหญ่ 47 บท รวมทั้งศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆและช่วงเวลาของการเข้าเป็นคริสตชน
ภาคสอง ภาคผนวก เป็นเรื่องของพระคัมภีร์และการใช้พระคัมภีร์
ภาคสาม กล่าวถึงจารีตและพิธีกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน
ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูตอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เห็นว่าหนังสือ “ก้าวไปด้วยกัน” นี้ สามารถใช้เป็นแนวทางในการสอนคำสอนผู้ใหญ่ในปัจจุบันนี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งหนังสือฯนี้ได้จัดแปลและพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกในปี ค.ศ. 1995 และได้ปรับปรุงและจัดพิมพ์ในครั้งที่ 2 ปี ค.ศ. 2005 และพิมพ์ครั้งที่ 3 ค.ศ. 2007 เพื่อใช้ในการสร้างกลุ่มคริสตชนและเพื่อประโยชน์ในการสอนคำสอนผู้ใหญ่  ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานอภิบาลในประเทศไทย ค.ศ. 2010-2015 ที่มุ่งเน้นวิถีชุมชนวัด (BEC) อีกด้วย
 สนใจสามารถติดต่อได้ที่ แผนกคริสตศาสนธรรม ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0-2233-0338  ,0-2237-5276 โทรสาร 0-2233-8159  E-mail: ccbkk@catholic.or.th ราคาเล่มละ 200 บาท (สองร้อยบาท)
( Lumko  เป็นสถาบันงานอภิบาลของสภาพระสังฆราชแห่งอาฟริกาใต้ ตั้งอยู่ที่ Germiston,Gauteng  มีวิสัยทัศน์มุ่งสร้างชุมชนวัด ตามเจตนาของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 และแผนอภิบาล"ชุมชนที่รับใช้มนุษยชาติ" ของสภาพระสังฆราชๆ ได้เริ่มแผนนี้หลายปีมาแล้ว และได้รับความร่วมมือ เป็นที่นิยมทั่วไปในอาฟริกาว่า ความรักเมตตาต้องมีกิจการ)













วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555


หนังสือเกี่ยวกับคำสอนผู้ใหญ่
สมัชชานานาชาติเพื่อการสอนคำสอน, พิชาญ ใจเสรี และคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ แปล, (1995). คำสอนผู้ใหญ่ในชุมชนคริสตชน:หลักการและข้อแนะนำบางประการ.กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์อัสสัมชัญ. 
 คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อการอบรมคริสตศาสนธรรม, แผนกคริสตศาสนธรรมกรุงเทพฯ แปล. (2010). คู่มือ
แนะแนวการสอนคำสอน ในประเทศไทย   กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.
สมณกระทรวงว่าด้วยเรื่องพระสงฆ์, แผนกคริสตศาสนธรรมกรุงเทพฯ แปล. (2006). คู่มือแนะแนวทั่วไป
สำหรับการสอนคำสอน  (General Directory for Catechesis - GDC) ข้อ 171 176. กรุงเทพฯ:         
โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.
ศูนย์วิจัยค้นคว้าศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยแสงธรรม, (2551) รายงานการวิจัยการศึกษากระบวนการพิธีรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชนคาทอลิกในประเทศไทย (RCIA). นครปฐม: วิทยาลัยแสงธรรม.
James j. Deboy Jr, (1979). Getting Started in Adult Religious Education. USA: Paulist Press.
Marie A. Gillen and Maurice C. Taylor, (1995). Adult Religious Education : A Journey of Faith Development.
USA: Paulist Press.

รายชื่อหนังสือคำสอนผู้ใหญ่  
ออสวอลด์ ฮีร์เมอร์, แผนกคริสตศาสนธรรมกรุงเทพฯ แปล, (ค.ศ. 2005) ก้าวไปด้วยกัน (พิมพ์ครั้งที่  2),
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.
ลุค ดอลลา, (1989). เรื่องน่าทึ่งของพระเยซูเจ้าชาวนาซาเร็ธ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ดอนบอสโกการพิมพ์.
คุณพ่อปอล ตราปุ๊กกี้, (1990).  ความรักของพระเป็นเจ้าและประชากรของพระองค์. กรุงเทพฯ: พี.เอส.เซอร์วิส.
ลุค คอลลา, ทางสู่พระเจ้าของข้าพเจ้า. กรุงเทพฯ: ดอนบอสโกการพิมพ์.
ลุค คอลลา, (2535). พระคริสตเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์. กรุงเทพฯ: ดอนบอสโกการพิมพ์.   
พระคุณเจ้า ยอร์ช ยอด พิมพิสาร (แปล), (1998). ข้าพเจ้าเชื่อ (คำสอนคาทอลิกเล่มเล็ก). กรุงเทพฯ:            
บริษัทสตาร์บูม.
วัชศิลป์ กฤษเจริญ, (2003). คาทอลิกสอนอะไร, (พิมพ์ครั้งที่ 2 ) ศูนย์คริสตศาสนธรรมเขตมิสซังราชบุรี     
นรินทร์ ศิริวิริยานันท์ แปล, (2003). ถาม ตอบคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก. สื่อมวลชนคาทอลิก
ประเทศไทย จัดพิมพ์.  
 แบร์นาร์ด กิลแม็ง แปล, (1997). ครอบครัวเป็นทั้งพระคุณและการอุทิศตน. เอกสารของสมณสภาเพื่อ
ครอบครัว (4-5 ตุลาคม ค.ศ. 1997)  พิมพ์ที่อุบลยงสวัสดิ์ออฟเซท.
สมบูรณ์ แสงประสิทธิ์, (1997). คำสอนคาทอลิกสำหรับเยาวชนและผู้ใหญ่. ศูนย์คำสอนสังมณฑลราชบุรี  
วีระ อาภรณ์รัตน์ จัดแปล, (1999).  คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก เล่ม 1-4  (พิมพ์ครั้งที่ 2). ฝ่ายงานอภิบาล
และธรรมทูต  อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
พงศ์ ประมวล, (1996). ความเชื่ออันเป็นชีวิต.  (ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก) การพิมพ์คาทอลิก
ประเทศไทย.
ชัชวาล แสงแก้ว, (2547). คู่มือเตรียมรับศีลมหาสนิท. (พิมพ์ครั้งที่ 14) กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.
ชลอ วรรณประทีป แปล, (1996). ศรัทธาทรงชีวิต. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.
ศูนย์คำสอนกรุงเทพฯ แปล, (1992). ทำไมคุณเป็นคริสตชน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.   
คุณพ่อโรแบต์ โกสเต และคณะกรรมการคำสอน 4 สังฆมณฑลอีสาน, (1996). คำสอนคริสตชน. กรุงเทพฯ: 
โรงพิมพ์อัสสัมชัญ.



 พิธี
โปรดศีลล้างบาปผู้ใหญ่
วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์

พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์เข้าเป็นคริสตชน
พิธีศีลล้างบาป

(หลังบทเทศน์ ให้เชิญผู้จะรับศีลล้างบาปเข้ามาหน้าพระแท่น พร้อมพ่อแม่ทูนหัว)
พิธีกร             เชิญผู้ที่จะรับศีลล้างบาปและพ่อแม่อุปถัมภ์ออกมาหน้าพระแท่น
พระสงฆ์         พี่น้องที่รัก ให้เราพร้อมใจกันภาวนาค้ำจุนความหวังของพี่น้องของเรา เพื่อพระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพจะได้ทรงพระเมตตา ช่วยเหลือทุกคนที่กำลังจะรับศีลล้างบาปที่ทำให้บังเกิดใหม่นี้
พิธีกร             เชิญยืน ร่วมใจภาวนาบทร่ำวิงวอนนักบุญทั้งหลาย
(พระสงฆ์หรือสังฆานุกร เป็นผู้ก่อ)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาเทอญ
สันตะมารีย์ พระชนนีแห่งพระเจ้า                                ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญมีคาแอล                                                        ช่วยวิงวอนเทอญ
เทวดาทั้งหลายของพระเจ้า                                        ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญยอแซฟ                                                          ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญยอห์น บัปติสต์                                                ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเปโตรและเปาโล                                             ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญอันดรูว์                                                           ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญยอห์น                                                            ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญมารีย์ ชาวมักดาลา                                          ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญสเตเฟน                                                         ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญอิกญาซิโอ ชาวอันทิโอก                                    ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญลอเรนซ์                                                         ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเปอร์เปตูอา และเฟลิซิตัส                                 ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญอักแนส                                                          ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเกรโกรี                                                           ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเอากุสติน                                                       ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญอาทานาส                                                      ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญบาซิล                                                            ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญมาร์ตินัส                                                        ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเบเนดิก                                                          ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญฟรังซิส และดอมินิก                                        ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญฟรังซิสเซเวียร์                                                 ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญยอห์น มารีย์ วีอันเนย์                                       ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญแคธริน ชาวเซียนา                                           ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญเทเรซา แห่งอาวิลา                                          ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญอันนา                                                            ช่วยวิงวอนเทอญ
บรรดาบุญราศีมรณสักขีชาวไทย                                  ช่วยวิงวอนเทอญ
นักบุญชายหญิงทั้งหลายของพระเจ้า                           ช่วยวิงวอนเทอญ
- โปรดเอ็นดูกรุณา                                                     ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- จากความชั่วทั้งมวล                                                ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- จากบาปทั้งมวล                                                      ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- จากความตายนิรันดร                                              ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- เพราะเห็นแก่การบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระองค์           ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- เพราะเห็นแก่การสิ้นพระชนม์
  และการกลับคืนชีพของพระองค์                                  ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- เพราะเห็นแก่การประทานพระคุณของพระจิตเจ้า           ช่วยให้พ้นเถิดพระเจ้าข้า
- ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นคนบาป                                       โปรดสดับฟังเถิดพระเจ้าข้า
- ขอพระองค์ทรงโปรดให้ผู้ได้รับเลือกสรรเหล่านี้
  บังเกิดใหม่ด้วยพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป               โปรดสดับฟังเถิดพระเจ้าข้า
ข้าแต่พระเยซู พระบุตรพระเจ้าผู้ทรงชีวิต                         โปรดสดับฟังเถิดพระเจ้าข้า
ข้าแต่พระคริสตเจ้าโปรดฟังเทอญ                   ข้าแต่พระคริสตเจ้าโปรดฟังเทอญ
ข้าแต่พระคริสตเจ้าโปรดสดับฟังเทอญ            ข้าแต่พระคริสตเจ้าโปรดสดับฟังเทอญ

พิธีเสกน้ำล้างบาป
พิธีกร          พี่น้องที่รัก ให้เราวิงวอนพระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เพื่อผู้รับเลือกสรรที่มาขอรับศีลล้างบาป พระองค์ทรงเรียกและนำพวกเขามาจนถึงบัดนี้ ขอพระองค์ประทานความสว่างและพละกำลัง ให้เขายึดมั่นในองค์พระคริสตเจ้าด้วยใจกล้าหาญ และประกาศความเชื่อของพระศาสนจักร ขอพระองค์โปรดส่งพระจิตมาฟื้นฟูจิตใจเขาด้วยน้ำซึ่งพระองค์ทรงบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์ไป

การเสกน้ำ
พระสงฆ์      ข้าแต่พระเป็นเจ้า ด้วยพระอานุภาพอันไม่ปรากฏแก่ตา พระองค์ทรงใช้เครื่องหมายของศีลศักดิ์สิทธิ์ ทำให้บังเกิดผลอันน่าพิศวง และได้จัดเตรียมน้ำด้วยวิธีการหลายประการ     เพื่อแสดงให้เห็นพระหรรษทานของศีลล้างบาป
ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระจิตของพระองค์ได้ร่อนอยู่เหนือน้ำในตอนแรกที่สร้างโลก เพื่อให้น้ำเริ่มมีฤทธิ์ที่จะบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่เวลานั้น
ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ได้โปรดให้น้ำวินาศเป็นรูปหมายถึงการเกิดใหม่ด้วยศีลล้างบาป เพื่อให้น้ำนี้เองเป็นจุดจบของความชั่วช้า และเป็นจุดเริ่มของคุณธรรมทั้งปวง
ข้าแต่พระเป็นเจ้า     พระองค์โปรดให้บุตรหลานของอับราฮัมเดินผ่านทะเลแดงบนหนทางแห้ง   เพื่อให้ชนชาติที่หลุดพ้นจากการเป็นทาสของพระเจ้าฟาโรห์ เป็นรูปหมายถึงประชากรที่ได้รับศีลล้างบาป
ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระบุตรของพระองค์เมื่อทรงรับพิธีล้างจากท่านยอห์น ในแม่น้ำจอร์แดนแล้ว ได้รับการเจิมจากพระจิตเจ้า เมื่อพระองค์ท่านถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขน ได้มีน้ำไหลออกจากสีข้างของพระองค์พร้อมกับโลหิต และเมื่อทรงกลับคืนพระชนม์แล้ว พระองค์ท่านได้ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า จงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขา เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต
ขอโปรดทอดพระเนตรพระศาสนจักรของพระองค์ และโปรดให้ธารน้ำแห่งศีลล้างบาปไหลพวยพุ่งอยู่ในพระศาสนจักร ขอให้น้ำนี้รับพระหรรษทานขององค์พระบุตรจากองค์พระจิตเจ้า เพื่อว่ามนุษย์ซึ่งได้สร้างมาตามภาพลักษณ์ของพระองค์ จะได้รับการชำระให้หลุดพ้นจากมลทินดั้งเดิมทั้งสิ้นด้วยศีลล้างบาป สมจะบังเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิตเจ้า
(พระสงฆ์หรือสังฆานุกร เอาเทียนปัสกาจุ่มลงในน้ำ...ครั้งเดียว...พลางกล่าวว่า)
พระสงฆ์      โปรดเถิดพระเจ้าข้า โปรดให้พลานุภาพของพระจิตลงมาในน้ำนี้ โดยทางพระบุตรของพระองค์
เพื่อให้ทุกคนที่ฝังในความตายพร้อมกับพระคริสตเจ้าด้วยศีลล้างบาป ได้กลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ท่านด้วย ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พิธีกร/ทุกคน                  อาแมน

พิธีรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป (จุดเทียนทุกคน)

การประกาศละทิ้งบาป
พระสงฆ์               ท่านละทิ้งบาป    เพื่อเจริญชีวิตอย่างเป็นอิสระในฐานะบุตรของพระเป็นเจ้าหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าละทิ้ง
พระสงฆ์               ท่านละทิ้งความยั่วยวนของความชั่ว เพื่อมิให้บาปครอบงำท่านหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าละทิ้ง
พระสงฆ์               ท่านละทิ้งปีศาจ ซึ่งเป็นจอมมารและเจ้าแห่งความมืดหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าละทิ้ง

การประกาศยืนยันความเชื่อ
พระสงฆ์               ท่านเชื่อถึงพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดินหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าเชื่อ
พระสงฆ์               ท่านเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า พระเอกบุตรของพระองค์ พระเจ้าของเรา ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี รับทรมานและถูกฝังไว้ ทรงกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายและประทับเบื้องขวาพระบิดาหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าเชื่อ
พระสงฆ์               ท่านเชื่อถึงพระจิต พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล สหพันธ์นักบุญ การอภัยบาป การกลับคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดรหรือ
ผู้รับเลือกสรร         ข้าพเจ้าเชื่อ

จารีตล้างบาป        พระสงฆ์ออกนามนักบุญและเทน้ำลงบนศีรษะ 3 ครั้ง
พ่อแม่ทูนหัววางมือขวาบนไหล่ขวาของผู้สมัคร
พระสงฆ์               น................ ข้าพเจ้าล้างท่าน เดชะพระนาม
พระบิดา                     (เทน้ำครั้งที่หนึ่ง)
และพระบุตร               (เทน้ำครั้งที่สอง)
และพระจิต                 (เทน้ำครั้งที่สาม)
(คณะนักขับร้องนำเพลง ใจยึดมั่น (สรรเสริญสดุดี หน้า 132, ปรารถนา 198)

การสวมเสื้อขาว
พระสงฆ์                  ลูกที่รัก ท่านได้กลับเป็นมนุษย์ใหม่ และได้สวมองค์พระคริสตเจ้าแล้ว จงรับเสื้อขาวนี้ และรักษาไว้มิให้ด่างพร้อย เฉพาะพระพักตร์พระเยซูคริสตเจ้า เพื่อจะได้มีชีวิตนิรันดร
ผู้รับศีลล้างบาป        อาแมน
(พ่อแม่ทูนหัวรับเสื้อขาวจากพระสงฆ์ และสวมให้แก่ผู้รับศีลล้างบาป)

การมอบเทียนจุด
พิธีกร                      เชิญพ่อแม่ทูนหัว เข้ามารับเทียนไปจุด
เพื่อมอบแก่ผู้รับศีลล้างบาปใหม่
(พ่อแม่ทูนหัวเอาเทียนจุดต่อจากเทียนปัสกา แล้วมอบให้แก่ผู้รับศีลล้างบาป)
พระสงฆ์                  ท่านได้กลายเป็นแสงสว่างในพระคริสตเจ้าแล้ว ขอให้ดำเนินชีวิตเยี่ยงบุตรแห่งความสว่างทุกๆ เวลา และยึดมั่นอยู่ในความเชื่อ ท่านจะได้ออกไปต้อนรับพระคริสตเจ้าผู้เสด็จมา ร่วมกับนักบุญทั้งหลายในสวรรค์
ผู้รับศีลล้างบาป        อาแมน

พิธีศีลกำลัง
(พระสงฆ์กล่าวคำปราศรัยสั้นๆ กับผู้รับศีลล้างบาปใหม่)
พระสงฆ์                  ลูกที่รัก ท่านได้เกิดใหม่ในพระคริสตเจ้า กลายเป็นส่วนร่างกายของพระองค์ และเป็นประชากรสงฆ์ของพระองค์แล้ว บัดนี้ ท่านยังต้องรับพระจิต ซึ่งเป็นองค์เดียวกันกับที่พระคริสตเจ้าได้เชิญมาถึงคณะอัครสาวกในวันสมโภชพระจิต ที่พวกเขาและผู้สืบตำแหน่งได้เชิญให้เสด็จมาถึงผู้รับศีลล้างบาปแล้ว
ฉะนั้น พวกท่านก็เช่นเดียวกัน จะได้รับพละกำลังของพระจิต พละกำลังนี้จะทำให้ท่านเหมือนพระคริสตเจ้ายิ่งขึ้น แล้วท่านจะได้ประกาศการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ทั้งจะได้เป็นสมาชิกร่วมงานกับพระศาสนจักร ในการเสริมสร้างพระกายของพระคริสตเจ้าด้วยความเชื่อและความรัก
(พระสงฆ์ยืนพนมมือ หันมาทางสัตบุรุษ กล่าวว่า)
พระสงฆ์                  พี่น้องที่รักยิ่ง ให้เราวอนขอพระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ โปรดส่งพระจิตมายังผู้ได้รับศีลล้างบาปใหม่เหล่านี้ พระองค์ท่านจะได้ประทานพระพรอย่างอุดมสมบูรณ์ บันดาลให้เขาเข้มแข็งมั่นคง และจะได้ทรงเจิมเขาให้เหมือนพระคริสต์ พระบุตรพระเจ้า
(ทุกคนภาวนาเงียบๆ ครู่หนึ่ง และพระสงฆ์ปกมือเหนือผู้รับศีลกำลัง ภาวนาว่า)
พระสงฆ์                  ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพ พระบิดาแห่งพระเยซูคริสตเจ้า พระองค์โปรดให้ข้ารับใช้เหล่านี้เกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิต ทรงช่วยเขาให้พ้นบาป โปรดส่งพระจิต องค์พระผู้บรรเทามาถึงเขา โปรดให้เขามีความปรีชาและสติปัญญา ความคิดอ่านและความเข้มแข็ง ความรู้และความเลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งโปรดให้เขารับใช้พระองค์ด้วยความยำเกรง ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พิธีกร/ทุกคน            อาแมน
(พระสงฆ์เจิมน้ำมันคริสมาที่หน้าผากเป็นเครื่องหมายกางเขน พ่อแม่ทูนหัวเอามือวางบนไหล่ผู้รับศีลกำลัง)
พระสงฆ์                  น............จงรับเครื่องหมายพระจิตเจ้า ซึ่งพระบิดาประทานให้
ผู้รับศีลกำลัง            อาแมน
พระสงฆ์                  สันติสุข จงอยู่กับท่าน
ผู้รับศีลกำลัง            และอยู่กับท่านด้วย
(คณะนักขับร้องนำเพลง เชิญพระจิต (สรรเสริญสดุดี 155 ปรารถนา 406)

ประธานพรมน้ำเสกแก่สัตบุรุษ และบทภาวนาเพื่อมวลชน

v     ให้ผู้รับศีลล้างบาปใหม่นำของถวายไปยังแท่นบูชา (RCIA 232)
v     ควรให้ผู้รับศีลล้างบาปใหม่ได้รับศีลมหาสนิท ในรูปปังและเหล้าองุ่น พร้อมกับพ่อแม่อุปถัมภ์  บิดามารดา  สามีภรรยา  และครู
คำสอน  (RCIA 234)